แนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยถูกงูกัดและได้รับพิษจากสัตว์
Practice Guideline for Management of Patients with Snake Bite
>> Download <<
หรือ https://drive.google.com/open?id=1J0I6P9S_6crCvEtx7VFU1jMDXzZFMD81
*แก้ไขเพิ่ม link ใหม่
แนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยถูกงูกัดและได้รับพิษจากสัตว์
ปี พ.ศ. 2555
ประเทศไทยอยู่ในเขตร้อนชื้น มีสัตว์พิษชุกชุม จึงมีผู้ป่วยได้รับพิษจากสัตว์ ทั้งจากการถูกกัดต่อย และ/หรือการรับประทาน
สัตว์พิษที่สำคัญในประเทศไทย ได้แก่
1. งูพิษ แบ่งออกเป็น
- งูที่มีพิษต่อระบบประสาท ได้แก่ งูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม และ งูทับสมิงคลา ผู้ป่วยที่ถูกกัดจะเป็นอัมพาต และเสียชีวิตจากการหยุดหายใจ
- งูที่มีพิษต่อระบบเลือด ได้แก่ งูแมวเซา งูกะปะ และงูเขียวหางไหม้ ผู้ป่วยที่ถูกกัดจะมีภาวะเลือดออกผิดปกติ บางรายจะมีไตวาย และ กล้ามเนื้อตาย
- งูที่มีพิษต่อกล้ามเนื้อ ได้แก่ งูทะเล
2. ผึ้ง ตัวต่อ
ในรายที่รุนแรง จะมีอาการหน้าบวม ช็อก หายใจลำบาก ไตวาย น้ำท่วมปอด
3. แมงมุม แมงป่อง ตะขาบ กิ้งกือ
จะมีอาการปวดบวม แดง ร้อน ในรายที่รุนแรง อาจเกิดสภาวะไตวายได้
4. สัตว์อื่น ๆ ได้แก่
- สัตว์ที่สร้างพิษ tetrodotoxin เช่น ปลาปักเป้า แมงดาถ้วย ฯลฯ ผู้ป่วยจะเป็นอัมพาต และหยุดหายใจ
- สัตว์ที่สัมผัสแล้วจะมีอาการปวดบวม แดง ร้อน เช่น ปลาสิงโต บุ้ง แมลงก้นกระดก
- งูที่มีพิษต่อระบบประสาท ได้แก่ งูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม และ งูทับสมิงคลา ผู้ป่วยที่ถูกกัดจะเป็นอัมพาต และเสียชีวิตจากการหยุดหายใจ
- งูที่มีพิษต่อระบบเลือด ได้แก่ งูแมวเซา งูกะปะ และงูเขียวหางไหม้ ผู้ป่วยที่ถูกกัดจะมีภาวะเลือดออกผิดปกติ บางรายจะมีไตวาย และ กล้ามเนื้อตาย
- งูที่มีพิษต่อกล้ามเนื้อ ได้แก่ งูทะเล
ในรายที่รุนแรง จะมีอาการหน้าบวม ช็อก หายใจลำบาก ไตวาย น้ำท่วมปอด
จะมีอาการปวดบวม แดง ร้อน ในรายที่รุนแรง อาจเกิดสภาวะไตวายได้
- สัตว์ที่สร้างพิษ tetrodotoxin เช่น ปลาปักเป้า แมงดาถ้วย ฯลฯ ผู้ป่วยจะเป็นอัมพาต และหยุดหายใจ
- สัตว์ที่สัมผัสแล้วจะมีอาการปวดบวม แดง ร้อน เช่น ปลาสิงโต บุ้ง แมลงก้นกระดก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น